
เปิดซิมม้าให้มิจฉาชีพ — ผิดกฎหมายอะไร และโทษอย่างไร
วันที่โพส 2 ต.ค. 2568 ผู้ชม 34
เปิดซิมม้าให้มิจฉาชีพ — ผิดกฎหมายอะไร และโทษอย่างไร
การ “เปิดซิมม้า” (ซิมที่ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนของผู้อื่น หรือเปิดแล้วขาย/ให้เช่า/ให้ยืมต่อให้คนที่นำไปใช้กระทำความผิด) กลายเป็นปัญหาที่ส่งผลเสียทั้งต่อผู้เสียหายโดยตรงและต่อความปลอดภัยของสังคม เช่น ใช้โทรหลอกลวง รับรหัส OTP ไปทำธุรกรรม หรือเป็นเครื่องมือในแก๊งคอลเซ็นเตอร์/ฟอกเงิน เป็นต้น ในบทความนี้สรุปว่า พฤติกรรมเกี่ยวกับซิมม้ามีความผิดอะไรบ้าง โทษเท่าไร และทำอย่างไรเพื่อป้องกันตัวเองและช่วยลดปัญหาในสังคมได้บ้าง พร้อมแหล่งอ้างอิงสำคัญเพื่ออ่านต่อ.
1) ซิมม้าผิดกฎหมายตามข้อหาใดบ้าง (สรุป)
-
การ เปิด/ขาย/ให้เช่า/ให้ยืมซิม ให้บุคคลอื่นใช้งานเพื่อกระทำความผิด ถูกระบุว่าเป็นความผิดตามกฎหมายคุ้มครองและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (กฎหมายที่เกี่ยวข้องในช่วงหลังมีการขยับมาตรการเข้มข้นขึ้น) — ผู้กระทำอาจถูกดำเนินคดีอาญาได้.
-
ผู้ที่ จัดหา/โฆษณา เพื่อให้มีการเปิด/ขาย/ให้เช่า/ให้ยืมซิม (เช่น รับจ้างเปิดซิม หรือประกาศรับสมัครคนลงทะเบียนให้) ก็เข้าข่ายความผิดรุนแรงกว่าและมีโทษสูงกว่า.
-
นอกจากนี้ การใช้ซิมม้าไปกระทำความผิด (เช่น หลอกลวง โกงเงิน โอนเงินโดยใช้ OTP ผู้อื่น ฯลฯ) อาจทำให้ผู้ให้ซิมถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับความผิดในข้อหาอำนวยความสะดวกหรือร่วมกระทำความผิดอีกหลายข้อหาตามกฎหมายอาญาและกฎหมายคอมพิวเตอร์/การเงิน ขึ้นกับพฤติการณ์.
2) โทษตามกฎหมาย (ภาพรวมที่พบในแหล่งข่าวราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง)
-
ผู้เป็นเจ้าของซิมม้า (ผู้ให้เช่า/ขาย/ให้ยืมซิม): มีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตัวเลขโทษอาจแตกต่างตามบทบัญญัติที่ใช้บังคับ).
-
ผู้จัดหา/ผู้โฆษณาเชื่อมโยงการเปิดซิมม้า (เช่น ผู้ว่าจ้างหรือผู้เป็นธุระจัดหา): มีโทษหนักขึ้น เช่น จำคุก 2–5 ปี หรือปรับ 200,000–500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามบทบัญญัติที่กล่าวถึงการส่งเสริม/จัดตั้งช่องทางให้เกิดอาชญากรรม.
หมายเหตุ: ตัวบทกฎหมายที่ใช้บังคับอาจเป็นพระราชกำหนดหรือพระราชบัญญัติ/ข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, กฎหมายคอมพิวเตอร์, กฎระเบียบของ กสทช. (การลงทะเบียนผู้ใช้บริการ) และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายป้องกันการฟอกเงินหรือพ.ร.ก.คอลเซนเตอร์ ซึ่งรัฐมีการปรับปรุงกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง — จึงควรตรวจสอบบทบัญญัติฉบับล่าสุดเมื่อจำเป็น.
3) ตัวอย่างพฤติกรรมที่นำไปสู่ความผิด
-
เปิดซิมในชื่อคนอื่นแล้วส่งให้แก๊งหลอกลวงใช้โทรเข้า-ออกหรือรับ SMS OTP.
-
ประกาศรับสมัคร “รับจ้างเปิดซิม” / “รับลงทะเบียนซิมแล้วขาย” ผ่านโซเชียลมีเดีย — เป็นการจัดหา/โฆษณาให้เกิดซิมม้าเข้าข่ายความผิด.
4) ผลกระทบต่อเจ้าของบัตรประชาชน/ผู้ให้ซิม
-
ถูกใช้เป็นเครื่องมือก่ออาชญากรรม ทำให้คุณถูกเรียกสอบสวนหรือถูกฟ้องร้อง หากพบว่าซิมของคุณถูกใช้ในชั้นต้นของกระบวนการอาชญากรรม.
-
เสียเครดิต ชื่อเสียง ถูกใช้ในการกระทำผิดทางการเงิน หรือถูกเรียกร้องความรับผิดชอบจากหน่วยงาน (ธนาคาร/ผู้ให้บริการ) และอาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง.
5) ทำอย่างไรเพื่อป้องกันตัวเองและลดปัญหา
-
อย่าขาย/ให้เช่า/ให้ยืมซิมหรือบัญชีธนาคาร แก่บุคคลที่ไม่ไว้ใจ ไม่ยอมรับจ้างเปิดซิมโดยเด็ดขาด.
-
เก็บบัตรประชาชนและข้อมูลส่วนตัวให้ปลอดภัย — หลีกเลี่ยงการส่งสำเนาบัตรให้คนรู้จักที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือโพสต์ข้อมูลส่วนตัวในที่สาธารณะ.
-
หากพบว่าซิมของคุณถูกนำไปใช้โดยมิชอบ ให้รีบแจ้งความกับตำรวจและแจ้งผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อระงับเบอร์ และขอสำเนาการแจ้งเรื่องเพื่อใช้เป็นหลักฐาน.
-
หากมีการเสนอเงินค่าจ้างให้เปิดซิม ให้ถือเป็นสัญญาณเตือนและห้ามทำ — การรับจ้างเปิดซิมมีโทษทางอาญา.
-
ติดตามประกาศจากหน่วยงานรัฐ (ตำรวจ, กสทช., สำนักงานสื่อสาร) เพื่อความรู้ว่ามาตรการหรือคำแนะนำล่าสุดเป็นอย่างไร.
6) หากต้องการช่วยสังคม ลดช่องทางมิจฉาชีพ
-
ไม่แชร์โพสต์ที่ชวนให้ “รับจ้างเปิดซิม/บัญชี” หรือโฆษณาบริการดังกล่าวบนโซเชียลมีเดีย — แจ้งแพลตฟอร์มเมื่อตรวจพบโพสต์ลักษณะนี้.
-
สนับสนุนการอบรมและการสร้างความรู้ให้คนใกล้ชิดเรื่องความเสี่ยงของการมอบข้อมูลส่วนตัว.
แหล่งอ้างอิงสำคัญ (อ่านต่อ)
-
ข่าวและคำเตือนจากตำรวจ/หน่วยงานราชการเกี่ยวกับการรับจ้างเปิดซิมม้า.
-
บทความให้ความรู้จากสื่อ (สรุปโทษและความเสี่ยงของซิมม้า).
-
ประกาศ/แนวปฏิบัติการลงทะเบียนผู้ใช้บริการของ กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่าย (แนวปฏิบัติการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการ).
-
ข้อมูลการแก้ไขกฎหมาย/พ.ร.ก. ที่เกี่ยวข้องกับการสกัดแก๊งคอลเซนเตอร์และบัญชีม้า (บทวิเคราะห์/สรุปกฎหมาย).